โดยทั่วไป การวัดความต้านทานภายในของแบตเตอรี่มี 2 ประเภท ได้แก่ วิธีกระแสตรง (DC) และวิธีกระแสสลับ (AC) วิธีกระแสตรงเป็นวิธีการที่แบตเตอรี่จะคายประจุด้วยกระแส คงที่และความต้านทานภายในจะถูกคํา านวณจากค่าปัจจุบันของ. . ในการใช้งานจริงกับการทดสอบกับยานยนต์ไฟฟ้าสามารถ ทดสอบได้สองแบบ คือการทดสอบแบบสถิตย์ (Static Test) และ การการทดสอบแบบพลวัตร (Dynamic Test) การทดสอบแบบสถิตย์ มักจะทํา าการทดสอบในห้องปฏิบัติการ เพื่อเก็บข้อมูลความต้านทาน ภายในของแบตเตอรี่. แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium Ion Battery: LIBs) ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ชนิดประจุซ้ำได้ที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นอันดับต้น ๆ ถูกนำมาใช้เป็นหลักในผลิตภัณฑ์ต่างๆในท้องตลาด เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า และโทรศัพท์มือถือ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตแบตเตอรี่ได้ทำงานร่วมกับผู้ผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์และอุตสาหกรรมอื่น ๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของ LIBs ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นมาก เพื่อให้ได้ให้ประสิทธิภาพและเป็นการยกระดับเทคโนโลยีให้สูงขึ้น และอายุการใช้งานที่ยาวนานเพิ่มขึ้น มีการพัฒนาทั้งด้านวิจัย การผลิต และการควบคุมคุณภาพของแบตเตอรี่ประเภทนี้เพิ่มมากขึ้น บทความนี้เป็นการนำเสนอวิธีการวัดประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ลิเธียมโดยใช้เทคนิคการวัดความต้านทานภายในแบตเตอรี่แบบกระแสสลับหรือค่าอิมพิแดนซ์ที่เป็นเทคนิคใหม่ที่นิยมใช้กันในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
ระบายความร้อนของแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพดีกว่าอากาศ เนื่องจากของเหลวมีความจุความร้อนสูง
SOLAR ENERGY TH เชี่ยวชาญในการออกแบบและติดตั้งระบบโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพสูง และการจัดเก็บพลังงานในพื้นที่ห่างไกล โซลูชันของเราถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในสถานที่ที่ไม่มีการเข้าถึงไฟฟ้า และสามารถรองรับทั้งการใช้งานในโครงการไมโครกริดและระบบพลังงานสะอาด
เราใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการผลิตและเก็บพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ระบบของเราเหมาะสำหรับทั้งการใช้งานในภาคธุรกิจและในพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงไฟฟ้าผ่านระบบปกติได้
SOLAR ENERGY TH มุ่งมั่นพัฒนาพลังงานสะอาดและยั่งยืนให้กับโลก ด้วยโซลูชันที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านพลังงาน ทั้งในอนาคตและในปัจจุบัน เราตั้งใจสร้างผลกระทบที่เป็นบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนความพึ่งพาตนเองของชุมชนในทุกมุมโลก